ถ้าคุณกำลังเริ่มต้นทำแบรนด์ หรือมีสายการผลิตเล็ก ๆ ไปจนถึงกำลังจะขยายโรงงาน การติดฉลากสินค้าคืออีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะฉลากสินค้าไม่ใช่แค่ชื่อสินค้า แต่มันคือหน้าตาของแบรนด์ที่มาพร้อมกับแหล่งข้อมูลสำคัญ เพราะฉะนั้นการเลือกเครื่องติดสติกเกอร์ให้เหมาะกับธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่ยังรวมถึงความเร็ว ความแม่นยำและความเหมาะสมกับบรรจุภัณฑ์ของคุณด้วย มาดูกันว่าคุณจะเลือกเครื่องติดสติกเกอร์ให้ถูกใจและเหมาะสมกับแบรนด์คุณได้ยังไง
1. ทำความรู้จักประเภทเครื่องติดสติกเกอร์
ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเครื่องติดสติกเกอร์มีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
1.1 เครื่องติดสติกเกอร์แบบแมนนวล
จะเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีกำลังการผลิตไม่เยอะต่อวัน ซึ่งเครื่องติดสติกเกอร์นี้จะใช้งานง่าย ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าจึงทำให้คุณสามารถประหยัดงบในเรื่องของค่าไฟได้ด้วย
1.2 เครื่องติดสติกเกอร์กึ่งอัตโนมัติ
เครื่องติดสติกเกอร์ระบบนี้จะมีความเร็วในการติดฉลากเร็วขึ้นมากว่าเดิม แต่ยังคงใช้งานไม่ยาก เหมาะกับผู้ที่เริ่มจะมีกำลังผลิตที่มากขึ้น
1.3 เครื่องสติกเกอร์อัตโนมัติ
เป็นเครื่องติดสติกเกอร์ที่มีความเหมาะสมสำหรับโรงงานที่มีกำลังการผลิตต่อเนื่อง เพราะสามารถใช้กับไลน์ผลิตได้หลากหลาย และยังคงความเร็วสูง แม่นยำ และเชื่อมต่อกับเครื่องจักรอื่นได้
เพราะฉะนั้นการเลือกประเภทของเครื่องติดสติกเกอร์ให้ตรงกับกำลังการผลิตของคุณ จะทำให้ชิ้นงานออกมามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะถ้าใช้เครื่องติดสติกเกอร์เล็กไปในสายการผลิตใหญ่ งานจะถูกผลิตออกมาช้า ไม่ตรงต่อวัตถุประสงค์การผลิตในแต่ละวัน แต่ถ้าใช้เครื่องติดสติกเกอร์ใหญ่เกินความจำเป็น จะทำให้เปลืองงบหรือมีค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นได้
2. ความสามารถในการพิมพ์บวัสดุ
บรรจุภัณฑ์แต่ละแบบจำเป็นจะต้องใช้เครื่องติดสติกเกอร์ที่ต่างกัน เช่น
2.1 สินค้าขวดกลมหรือกระป๋องอลูมิเนียม: ควรใช้เครื่องติดสติกเกอร์ที่สามารถหมุนฉลากให้แนบกับพื้นผิวโค้งได้
2.2 สินค้าขวดแบน ถุงซอง กล่อง: ควรจะต้องเลือกเครื่องติดสติกเกอร์ที่ปรับหน้าสัมผัสได้ดี และควบคุมตำแหน่งฉลากได้แม่นยำ
2.3 วัสดุผิวมันหรือวัสดุที่มีความโค้ง: จะต้องใช้เครื่องติดสติกเกอร์ที่มีตัวกดช่วย หรือเครื่องที่สามารถปรับความหนืดของลูกกลิ้งให้พอดีกับรูปทรงของวัสดุได้
3. เช็กฟังก์ชันที่จำเป็น
เนื่องจากเครื่องติดสติกเกอร์มีหลายประเภท แน่นอนว่าทุกเครื่องจะมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันไป คุณควรเช็คว่าในสายการผลิตหรือธุรกิจของคุณ นั้นจะต้องการฟังก์ชันแบบไหนถึงจะเหมาะสม เช่น การปรับตำแหน่งฉลากอัตโนมัติ ความสามารถในการใช้งานร่วมกับเครื่องพิมพ์วันที่ผลิตชนิดอื่น หรืออยากได้เครื่องที่ตั้งค่าผ่านหน้าจอทัช เครื่องติดสติกเกอร์บางชนิดอาจมีระบบเซนเซอร์ตรวจสินค้า นับจำนวนฉลาก หรือแม้แต่หยุดอัตโนมัติเมื่อกระดาษสติกเกอร์หมดม้วน ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยลดข้อผิดพลาดจากคนได้เยอะมาก
4. บริการหลังการขาย
ถึงแม้ว่าเครื่องติดสติกเกอร์จะไม่มีความซับซ้อนมาก แต่ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา อาจทำให้ไลน์ผลิตสะดุดได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการเลือกแบรนด์หรือผู้จำหน่ายที่มีทีมบริการหลังการขาย มีอะไหล่พร้อมเปลี่ยนและตอบคำถามเร็วเมื่อมีปัญหา หรือยิ่งถ้ามีเทรนนิ่งให้ฟรีตอนติดตั้งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวได้ดี
การเลือกเครื่องติดสติกเกอร์ให้เหมาะกับธุรกิจไม่ใช่เรื่องยาก แค่ต้องเริ่มจากการรู้จักความต้องการของผู้ประกอบการก่อน จากนั้นค่อยเริ่มมองหาเครื่องติดสติกเกอร์ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านกำลังการผลิต ประเภทบรรจุภัณฑ์ และงบประมาณ อย่าเลือกเพราะแค่ราคาถูก หรือมีฟีเจอร์เยอะ เพราะสุดท้ายแล้วเครื่องติดสติกเกอร์ที่คุ้ม คือเครื่องที่ช่วยให้คุณผลิตงานได้ราบรื่น ตรงเวลา และมีคุณภาพสม่ำเสมอในทุกชิ้นงาน
https://www.facebook.com/photo/?fbid=738011538560944&set=a.203402955355141
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
0974964444