ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือการพิมพ์วันที่ผลิต วันหมดอายุ หรือรหัสล็อตลงบนบรรจุภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ฉลาก ถุงฟอยล์ หรือขวดพลาสติก เพราะนอกจากจะเป็นเรื่องของกฎหมายและความปลอดภัยแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์อีกด้วย เมื่อธุรกิจต้องตัดสินใจว่าจะจัดการเรื่องการพิมพ์วันที่ผลิตด้วยตัวเอง หรือจ้างบริการจากภายนอก คำถามสำคัญคือ “แบบไหนคุ้มค่ากว่ากันในระยะยาว?” บทความนี้จะช่วยคุณวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย และปัจจัยที่ควรพิจารณา เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าควรเดินหน้าแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับธุรกิจของคุณที่สุด
การลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์วันที่ผลิต
การเลือกลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์วันที่ผลิต เช่น ระบบ TTO (Thermal Transfer Overprint), CIJ (Continuous Inkjet) หรือเลเซอร์ เป็นทางเลือกที่ทำให้ธุรกิจสามารถควบคุมการผลิตได้เองตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ต้องพึ่งพาบุคคลภายนอก ทำให้กระบวนการไหลลื่น ลดเวลาการรอชิ้นงาน ลดโอกาสการเกิดข้อผิดพลาดจากบุคคล ความผิดพลาดในการส่งต่องาน และสามารถปรับข้อมูลการพิมพ์ได้ตามต้องการ เช่น หากมีการเปลี่ยนล็อตผลิต หรือพิมพ์วันหมดอายุเฉพาะตามแผนจัดส่งจะสามารถเปลี่ยนได้ทันทีแบบเรียลไทม์
แม้ต้นทุนเริ่มต้นของเครื่องพิมพ์วันที่อาจจะดูสูงโดยเฉพาะเครื่องพิมพ์มีความแม่นยำและทนทาน แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายในระยะยาว จะพบว่าการพิมพ์เองสามารถลดต้นทุนต่อหน่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะในกรณีที่มียอดผลิตต่อเดือนสูง หรือต้องพิมพ์ฉลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงด้านข้อมูลผิดพลาด เพราะสามารถตรวจสอบงานพิมพ์ได้ทันทีในไลน์การผลิต
อย่างไรก็ตาม การลงทุนนี้มาพร้อมความรับผิดชอบเพิ่มขึ้น เช่น ต้องมีพนักงานที่เข้าใจวิธีใช้งานและดูแลเครื่อง มีแผนบำรุงรักษา และงบสำหรับวัสดุสิ้นเปลือง เช่น หมึก ริบบอน หรือตลับพิมพ์ ทั้งนี้ หากวางระบบได้ดี และมีการฝึกอบรมบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เครื่องพิมพ์จะกลายเป็นทรัพย์สินที่ช่วยสร้างความคุ้มค่าให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
การจ้างพิมพ์จากภายนอก
ในอีกทางหนึ่งการเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการภายนอก เช่น โรงพิมพ์หรือซัพพลายเออร์ที่รับจ้างพิมพ์วันที่ผลิต เป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดเวลาในระยะสั้น ไม่ต้องมีต้นทุนลงทุนเริ่มต้น ไม่ต้องซ่อมบำรุง และไม่ต้องจัดการเรื่องบุคลากรที่ดูแลเครื่องพิมพ์ ซึ่งเหมาะกับธุรกิจที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น หรือมียอดการผลิตต่อเดือนไม่มากนัก
แต่ข้อเสียของการจ้างพิมพ์คือเรื่องของ ความยืดหยุ่นและการควบคุม เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลฉลากในนาทีสุดท้าย เช่น เปลี่ยนวันหมดอายุหรือสัญลักษณ์พิเศษ คุณอาจต้องรอคิวงาน หรือเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการจัดพิมพ์ใหม่ นอกจากนี้ การที่ขั้นตอนสำคัญต้องอาศัยบุคคลภายนอก ยังเพิ่มความเสี่ยงเรื่องความล่าช้า และการเกิดข้อผิดพลาดที่คุณไม่สามารถควบคุมได้โดยตรง
อีกทั้งในกรณีที่ต้องการพิมพ์ข้อมูลแบบไดนามิก เช่น รหัส QR ต่างกันทุกชิ้น หรือล็อตผลิตที่เปลี่ยนทุกบรรจุภัณฑ์ การจ้างพิมพ์อาจไม่ตอบโจทย์ด้านเทคนิค ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระบบอัตโนมัติที่ยืดหยุ่นได้อย่างเต็มที่
สรุปควรเลือกแบบไหนดี?
หากคุณคือเจ้าของโรงงานหรือผู้ดูแลสายการผลิต การตัดสินใจว่าจะลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์วันที่ผลิตเองหรือจ้างพิมพ์จากภายนอก ต้องพิจารณาจากหลายมิติ ไม่ใช่แค่ “ราคา” เพียงอย่างเดียว
คุณเหมาะกับการลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์เอง หากธุรกิจของคุณมีการผลิตต่อเนื่องหรือมียอดผลิตมากต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการพิมพ์บ่อย หรือต้องการควบคุมคุณภาพและความเร็วและมีเป้าหมายในการทำให้ระบบการผลิตเป็นอัตโนมัติมากขึ้น
คุณเหมาะกับการจ้างพิมพ์จากภายนอก หากคุณเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจและยังมีงบประมาณจำกัด มียอดผลิตน้อยหรือไม่แน่นอน ต้องการลดภาระเรื่องบุคลากรและการดูแลเครื่องจักร
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกแนวทางใด สิ่งสำคัญคือการวางแผนระยะยาวให้สอดคล้องกับการเติบโตของธุรกิจ หากคุณยังไม่พร้อมลงทุน อาจเริ่มจากการจ้างงาน แล้วเก็บข้อมูลต้นทุนและประสิทธิภาพไว้เปรียบเทียบ เมื่อถึงจุดที่ธุรกิจโตพอ ก็สามารถตัดสินใจลงทุนเพื่อควบคุมทุกอย่างได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
https://www.facebook.com/photo/?fbid=775053624856735&set=a.203402955355141
สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
0974964444
